hummer duramax diesel รถฮัมเมอร์ โคตรสวย
รถยนต์ฮัมเมอร์รุ่นแรก สร้างขึ้นจากโครงของรถลาดตระเวนลำเลียงพลฮัมวี (Humvee) ที่มีชื่อเสียงของกองทัพสหรัฐฯ และมีใช้ในกองทัพไทย
บริษัทผู้ผลิตได้ดัดแปลง ให้สามารถนำมาใช้ทางฝ่ายพลเรือนและสร้างออกมาในเชิงพาณิชย์ เพียงไม่นานก็ได้กลายเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ยอดนิยมในสหรัฐฯ
และเป็นของเล่นหรูสำหรับผู้มีอันจะกินในประเทศต่างๆ ทั่วโลก สำหรับฮัมเมอร์ H2 (2 ภาพแรก) ติดเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 393 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 563 นิวตันเมตร
ส่วนฮัมเมเอร์ H3 รุ่นปัจจุบันได้ลดขนาดลงมาเป็นสปอร์ตเอสยูวี ติดเครื่องยนต์ 5 กระบอก สูบความจุ 3.7 ลิตร (สองภาพสุดท้าย) แต่ก็ยังหรูไม่สร่างซา
บริษัทผู้ผลิตได้ดัดแปลง ให้สามารถนำมาใช้ทางฝ่ายพลเรือนและสร้างออกมาในเชิงพาณิชย์ เพียงไม่นานก็ได้กลายเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ยอดนิยมในสหรัฐฯ
และเป็นของเล่นหรูสำหรับผู้มีอันจะกินในประเทศต่างๆ ทั่วโลก สำหรับฮัมเมอร์ H2 (2 ภาพแรก) ติดเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 393 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 563 นิวตันเมตร
ส่วนฮัมเมเอร์ H3 รุ่นปัจจุบันได้ลดขนาดลงมาเป็นสปอร์ตเอสยูวี ติดเครื่องยนต์ 5 กระบอก สูบความจุ 3.7 ลิตร (สองภาพสุดท้าย) แต่ก็ยังหรูไม่สร่างซา

รถ hammer เป็น ของ GM ทำให้กองทัพอเมริกัน เพื่อใช้ ทดแทน จิ๊ปที่หมดอายุใช้งาน
วัตถุประสงค์เพื่อใช้ สนับสนุนการรบ และใช้เคลื่อนย้านกำลังพล ของทหารบก
เป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลา รุ่นนี้เรียกว่า H1
แต่อเอกชนหลายราย(ที่มีตังค์) ก็ได้สั่งซื้อเอามาใช้งาน
GM จึงออกรุ่นสำหรับเอกชน เรียกว่า H2 มีการตกแต่งภายใน แบบรถที่วางขายทั่วไปในตลาด (ต่างจากรุ่นH1 ที่ข้างในแทบไม่มีการตกแต่งเลย+เกียร์ธรรมดา) เครื่อง 6000cc
แต่ปัญหาก็ยังไม่หมด เพราะ ราคายังสูง และมีส่วนแบ่งตลาดน้อย เพราะต้นทุน ไม่สามารถลดได้ ขณะนั้น กระแส รถ SUV กำลังแรงถึงขีดสุด ก่อนที่จะตกลงมาเพราะ ราคาน้ำมัน พุ่งครั้งประวัติศาสตร์
GM จึงทำการลดต้นทุน ครั้งใหญ่ โดยการเอา platform ของford Explorer มาใช้ ทำให้สามารถลดต้นทุนลงไปได้มาก และ เรียก รุ่นนี้ ว่าH3 ที่เราๆเห็น วิ่งอยู่ทั่วไปในเมืองไทย เครื่อง 3500cc
แต่รุ่น H2 ที่โด่งดัง กลับมีวิ่งน้อยมาก แต่จะมีเยอะที่อเมริกา ที่พวก ดารา แร๊ป ใช้กันเยอะๆนั่นละครับ ใหญ่กว่ารุ่นH3 มาก
วัตถุประสงค์เพื่อใช้ สนับสนุนการรบ และใช้เคลื่อนย้านกำลังพล ของทหารบก
เป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลา รุ่นนี้เรียกว่า H1
แต่อเอกชนหลายราย(ที่มีตังค์) ก็ได้สั่งซื้อเอามาใช้งาน
GM จึงออกรุ่นสำหรับเอกชน เรียกว่า H2 มีการตกแต่งภายใน แบบรถที่วางขายทั่วไปในตลาด (ต่างจากรุ่นH1 ที่ข้างในแทบไม่มีการตกแต่งเลย+เกียร์ธรรมดา) เครื่อง 6000cc
แต่ปัญหาก็ยังไม่หมด เพราะ ราคายังสูง และมีส่วนแบ่งตลาดน้อย เพราะต้นทุน ไม่สามารถลดได้ ขณะนั้น กระแส รถ SUV กำลังแรงถึงขีดสุด ก่อนที่จะตกลงมาเพราะ ราคาน้ำมัน พุ่งครั้งประวัติศาสตร์
GM จึงทำการลดต้นทุน ครั้งใหญ่ โดยการเอา platform ของford Explorer มาใช้ ทำให้สามารถลดต้นทุนลงไปได้มาก และ เรียก รุ่นนี้ ว่าH3 ที่เราๆเห็น วิ่งอยู่ทั่วไปในเมืองไทย เครื่อง 3500cc
แต่รุ่น H2 ที่โด่งดัง กลับมีวิ่งน้อยมาก แต่จะมีเยอะที่อเมริกา ที่พวก ดารา แร๊ป ใช้กันเยอะๆนั่นละครับ ใหญ่กว่ารุ่นH3 มาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น